ประเภทของคอมพิวเตอร์
 
 
 
  ประเภทของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มีลักษณะ ขนาด และราคาที่แตกต่างกันไป
ตามลักษณะงานที่ใช้ หากงานประมวลผลนั้นไม่ได้ซับซ้อนหรือยุ่งยากมากนัก
อีกทั้งการใช้งานอยู่ในวงแคบเช่น ที่บ้านหรือสำนักงานขนาดเล็ก คุณอาจจะซื้อ
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีราคาไม่แพงมากนักมาใช้งานได้ แต่บางหน่วยงาน
เช่น องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องมีการประมวลผลใหญ่และซับซ้อนมาก
และการใช้งานกระจายอยู่ในวงกว้าง คือมีสาขาหรือสำนักงานขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วไป
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับลักษณะงานดังกล่าวอาจจำเป็นต้องใช้เครื่องที่มี
ราคาแพงและสมรรถนะในการประมวลผลที่สูงและเร็วพอสมควรเพื่อให้สามารถแข่งขัน
ในเชิงธุรกิจได้ การจำแนกประเภทของคอมพิวเตอร์สามารถทำได้หลายรูปแบบ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้แบ่งเป็นหลัก ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไปอาจจำแนก
ออกได้ตามตารางด้านล่างนี้
 
 
เกณฑ์ที่ใช้จำแนก
ประเภทคอมพิวเตอร์
ตามลักษณะการใช้งาน
แบบใช้งานทั่วไป ( General purpose computer)
แบบใช้งานเฉพาะ ( Special purpose computer)
ตามขนาดและความสามารถ
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ( Supercomputer)
เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ( Mainframe computer)
มินิคอมพิวเตอร์ ( Minicomputer)
ไมโครคอมพิวเตอร์ ( Microcomputer)
คอมพิวเตอร์มือถือ ( Handheld Computer)
 
  จำแนกตามลักษณะการใช้งาน คอมพิวเตอร์ที่แบ่งตามกลุ่มการใช้งานนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ  
 
 

แบบใช้งานทั่วไป เป็นคอมพิวเตอร์กลุ่มที่เราพบเห็นได้ในการทำงานทั่วไป เช่น ตามบ้านหรือสำนักงาน
อาคาร ห้างร้าน บริษัททั่วไป ซึ่งเป็นการใช้งานแบบอเนกประสงค์ผู้ใช้สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงาน
ที่ค่อนข้างหลากหลาย เช่น งานด้านสำนักงาน การแพทย์และวิทยาศาสตร์ หรือใช้สำหรับการรับฟังเพลง
หรือดูหนังแบบส่วนตัวพร้อมกับการลงรายการบัญชีด้วยคอมพิวเตอร์ได้ คอมพิวเตอร์กลุ่มนี้เป็นที่นิยมใช้กัน
อย่างแพร่หลาย มักมีราคาถูกและหาซื้อได้ทั่งไป อีกทั้งค่าบำรุงรักษาจะมีราคาที่ต่ำกว่าและไม่จำเป็นต้อง
ใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะมาดูแลโดยตรง

 
       
  แบบใช้งานเฉพาะ เป็นคอมพิวเตอร์กลุ่มที่ใช้งานแบบเฉพาะอย่างหรือเป็นกรณีไป ไม่สามารถนำไปใช้กับงานอย่างอื่นได้ ความยืดหยุ่นในการใช้งานจึงมีน้อยกว่าแบบใช้งานทั่วไป โดยมากมักเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานทางด้านอุตสาหกรรมหรือโรงงานเป็นหลัก เช่น ระบบควบคุมอัตโนมัติในโรงงาน เครื่องจักรกลอัตโนมัติ หุ่นยนต์ขนถ่ายสินค้า เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศ มักมีราคาแพงและใช้งานเฉพาะบริษัทหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น อาจมีค่าบำรุงรักษาเครื่องมือเหล่านี้ที่แพงมาก เพราะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ  
       

กิจกรรมการเรียน
 
   
เข้าสู่เนื้อหาเรื่องที่ 2 |แหล่งเรียนรู้